ประวัติวัดป่าพิทักษ์ธรรม
ตั้งอยู่ที่บ้านถาวรพัฒนา หมู่ที่ 15 ถนนพิมาย-หินดาด ก.ม.ที่ 8 ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา เริ่มจากดำริของคุณดำรงค์-คุณนฤมล เอื้อวิทยาศุภร มีความประสงค์อยากจะให้ชาวบ้านถาวรพัฒนามีวัดเป็นสถานที่ทำบุญ รักษาศีลเจริญภาวนาของพุทธบริษัท จึงได้เดินทางไปกราบนมัสการพระเดชพระคุณพระโพธิญาณเถร(ชา สุภทฺโท) แห่งวัดหนองป่าพง เพื่อขอความเมตตาจากหลวงปู่เพื่อให้รับพิจารณาสถานที่เพื่อสร้างเป็นสำนักสาขาของวัดหนองป่าพง หลวงปู่ก็ได้ให้ความอนุเคราะห์ตามที่ญาติโยมผู้มีศรัทธาร้องขอ ท่านจึงบอกให้ไปจัดเตรียมสถานที่ไว้ เมื่อมีโอกาสแล้วท่านจะเดินทางมาดูด้วยตนเอง คณะศรัทธาญาติโยมจึงเดินทางกลับมาเพื่อจัดเตรียมสถานที่ ครั้นเมื่อพร้อมแล้วจึงกลับไปกราบเรียนหลวงปู่อีกครั้ง ท่านได้พิจารณาเห็นสมควรแล้วให้เดินทางไปพบลูกศิษย์ของท่านที่วัดเขาจันทน์งาม คือท่านพระอาจารย์เสก
พระอาจารย์เสกได้เมตตามาพักเยี่ยมเป็นครั้งคราว แต่ไม่มีพระภิกษุมากพอที่จะส่งมาพำนักประจำที่วัดแห่งนี้ได้ พอถึงช่วงฤดูกาลเข้าพรรษา คณะศรัทธาญาติโยมอยากให้มีพระภิกษุมาอยู่ประจำเป็นหลัก เพื่อนำพาประพฤติปฏิบัติ และบำเพ็ญบุญกุศล จึงประชุมตกลงกันว่าสมควรที่จะเดินทางไปพบหลวงพ่อโสภณ โอภาโส แห่งวัดบึงลัฏฐิวัน เพื่อขอความเมตตาอนุเคราะห์ส่งพระภิกษุ 3 รูป สามเณร 1 รูปมาอยู่จำพรรษา ในปี พ.ศ. 2525 หลังจากออกพรรษาปีดังกล่าว คุณดำรงค์ - คุณนฤมล เอื้อวิทยาศุภร จึงได้ถวายที่ดินจำนวน 16 ไร่ 2 งาน เพื่อสร้างเป็นวัด ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2526 จากนั้นก็มีพระภิกษุอยู่จำพรรษามาจนกระทั่งปลายปี พ.ศ. 2527 วัดไม่มีพระภิกษุอยู่ประจำ หลวงปู่รวิพัฒน์ ธมฺมโชโต (เจ้าอาวาสวัดบวรวิเวกวราราม อ.แก้งสนามนาง จ.นครราชสีมา) ซึ่งได้อยู่จำนำพรรษาที่วัดแห่งนี้ในปี พ.ศ. 2527 ได้พบกับพระอาจารย์คำผอง ฐิตปุญฺโญ ประธานสงฆ์วัดเขาถ้ำสหกรณ์นิคม อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเดินทางมาร่วมงานบำเพ็ญบุญที่วัดเขาวันชัยนวรัตน์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ให้มาแวะเยี่ยมพักค้างคืน และพิจารณาหาพระภิกษุมาอยู่จำพรรษาต่อไป คณะศรัทธาญาติโยมจึงได้กราบอาราธนานิมนต์พระอาจารย์คำผอง ฐิตปุญฺโญ ให้อยู่จำพรรษาที่วัดนี้ แต่ท่านติดภาระทางวัดที่ จ.กาญจนบุรี จึงต้องเดินทางกลับไปก่อน แต่ท่านก็รับไว้พิจารณา เมื่อต้นปี พ.ศ. 2528 คณะศรัทธาญาติโยมได้เดินทางไปกราบเยี่ยมพระอาจารย์คำผอง ฐิตปุญฺโญ ที่ จ.กาญจนบุรี และได้รับข่าวดีเป็นอย่างยิ่ง นั่นคือพระอาจารย์คำผอง ฐิตปุญฺโญ รับปากจะมาจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ในปีนั้น
ปีแรกแห่งการจำพรรษาที่วัดป่าพิทักษ์ธรรม ของพระอาจารย์คำผอง ฐิตปุญฺโญ ในปีนั้นมีพระภิกษุ 7 รูป สามเณร 3 รูป มีกุฏิเสนาสนะจำนวน 5 หลัง และศาลาปฏิบัติธรรม 1 หลัง
ท่านเริ่มภารกิจแห่งความเป็นผู้นำในนาทีแรกแห่งการมาถึงวัดนี้ ท่านได้มีดำริที่จะสร้างศาลาปฏิบัติธรรมให้แล้วเสร็จ และจัดสร้างอาคารโรงครัว พร้อมทั้งกุฏิกรรมฐาน ท่านได้นำพาศรัทธาญาติโยมประพฤติปฏิบัติตามข้อวัตรของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ที่ท่านได้รับถ่ายทอดจากองค์หลวงปู่ชา สุภทฺโท มาโดยตรง ท่านนำพาศรัทธาญาติโยมพัฒนาทั้งภายในและภายนอก ตามลำดับดังนี้
ปี พ.ศ. 2528 สร้างโรงครัว เพราะขณะนั้นวัดยังไม่มีสถานที่กัปปิยะภูมิ และเก็บสิ่งของเครื่องใช้ในครัว ได้แรงศรัทธาจากญาติโยมชาวพิมาย ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างขึ้น ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 6 เดือนก็แล้วเสร็จ หลังจากนั้นก็ได้ต่อเติมขยายให้มีขนาดกว้างขวางขึ้นประมาณ 2-3 หนด้วยกัน จนปี พ.ศ. 2537 คณะลูก-หลาน คุณตาเพิ่ม หมั่นวาจา ได้มาเป็นเจ้าภาพต่อเติมปรับปรุงให้สะดวกสบาย มากขึ้น
ปี พ.ศ. 2529 สร้างกุฏิเจ้าอาวาส 2 ชั้น 1 หลัง ลักษณะทรงไทย กว้าง 7 เมตร ยาว 10 เมตร เพื่อใช้เป็นที่รับรองพระเถระ ในขณะนั้น
ปี พ.ศ. 2530 ซื้อที่ดินเพิ่มอาณาเขตวัด 20 ไร่ ด้านทิศใต้ เพื่อเพิ่มบริเวณในกว้างขวางยิ่งขึ้น เหมาะสมแก่การประพฤติปฏิบัติสืบต่อไป ด้วยแรงศรัทธาจากญาติโยม ช่วยกันสมทบ สิ้นค่าใช้จ่ายไปทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 4 แสนบาท
ปี พ.ศ. 2532 เริ่มมีศรัทธาญาติโยมเป็นเจ้าภาพสร้างกุฏิถาวรพระกรรมฐาน ขนาดกว้าง 4 เมตร ยาว 5 เมตร พร้อมห้องสุขา เป็นลำดับมาเรื่อย ๆ ทุกปี รวมทั้งสิ้นจำนวน 19 หลัง
ปี พ.ศ. 2534 สร้างศาลาปฏิบัติธรรม กว้าง 15 เมตร ยาว 36 เมตร เพื่อรองรับพุทธบริษัทที่มาร่วมประพฤติปฏิบัติ ซึ่งเพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี โดยใช้ระยะเวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 5 ปี จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์
ปี พ.ศ. 2541 สร้างพระประธานปางสมาธิ ขนาดหน้าตัก 7 เมตร 9 นิ้ว ผู้ริเริ่มขึ้นโดยนายช่างแก่น ได้บริจาคทรัพย์ 50000 บาทเป็นเบื้องต้น และอุทิศแรงกายในการปั้นโดยไม่คิดค่าแรง
ปี พ.ศ. 2542 สร้างซุ้มประตูทางเข้าวัด โดยมีนางประทุมมา เปรื่องค้า เป็นผู้เริ่มต้นบริจาคทรัพย์จำนวน 200000 บาท, ร้านมาลินี(ตลาดใหม่พิมาย) บริจาค 10000 บาท และอุบาสก-อุบาสิกา พร้อมด้วยศรัทธาญาติโยม วัดป่าพิทักษ์ธรรม ร่วมสมทบ
ปี พ.ศ. 2543 สร้างเรือนรับรองอุบาสิกา เพื่อใช้เป็นสถานที่พักของอุบาสิกาผู้เข้าร่วมประพฤติปฏิบัติ และศรัทธาญาติโยมที่เดินทางมาร่วมบำเพ็ญบุญ โดยไม่มีสถานที่ให้พักค้างแรม โดยได้รับการบริจาคบ้านไม้หลังเก่าพร้อมเครื่องเรือนจากคุณสุรพล ทิพยรักษ์ ชาวตลาดพิมาย
ปี พ.ศ. 2546 สร้างพระอุโบสถ 2 ชั้น ชั้นบนใช้เป็นโรงอุโบสถในการทำสังฆกรรมของพระภิกษุสงฆ์ ชั้นล่างใช้เป็นโถงอเนกประสงค์พร้อมที่ฉันภัตตาหาร โดยมีนางประทุมมา เปรื่องค้า เป็นเจ้าภาพทอดกฐินเป็นทุนทรัพย์เบื้องต้นในการสร้างอุโบสถ พร้อมทั้งศรัทธาจากญาติโยมชาวพิมาย, โคราช และกรุงเทพมหานคร ภายใต้การนำของ ร้านเสริมสวย "ยี" , คุณสุภัค-คุณกัญญารัตน์ หิรัญนิธิวัฒนา, คุณวรรณี ตะติยะ, ร้านเสริมสวย "วาณี" พร้อมคณะได้นำกฐินและผ้าป่ามาทอดถวายสมทบทุนในการก่อสร้างจนแล้วเสร็จสมบูรณ์ สิ้นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างประมาณ 6 ล้านบาทเศษ
ปี พ.ศ. 2547 สร้างกุฏิรับรองพระเถระเป็นกุฏิคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง 2 ชั้น ขนาดกว้าง 13.5 เมตร ยาว 12 เมตร มีชานรอบ ขึ้นเพื่อทดแทนกุฏิเจ้าอาวาสหลังเก่าที่ชำรุดเพราะถูกปลวกทำลายกัดกิน ด้วยกำลังศรัทธาจากญาติโยมร่วมแรงร่วมใจกันบริจาค สิ้นงบประมาณ 1700000 บาท
ปี พ.ศ. 2549 ขยายที่ดินหน้าวัด ด้านทิศเหนือ ติดถนน 7 ไร่ ด้วยแรงศรัทธาของญาติโยมร่วมกันถวายที่ดินเพื่อให้เป็นอาณาบริเวณที่กว้างขวางยิ่งขึ้น
ตลอดระยะเวลา 22 ปีผ่านมา การพัฒนาของวัดป่าพิทักษ์ธรรม ได้เจริญเติบโตขึ้นเป็นลำดับ ทั้งถาวรวัตถุ และบุคลากรทางพระพุทธศาสนา เริ่มต้นจากศาลาไม้หลังเล็ก เมื่อมีศรัทธาญาติโยมเข้าร่วมประพฤติปฏิบัติมากขึ้น ก็มีเหตุปัจจัยที่จะต้องทำการขยับขยาย ทำการก่อสร้างถาวรวัตถุ เพิ่มขึ้น ด้วยแรงศรัทธา และกำลังทุนทรัพย์จากศรัทธาญาติโยม ทั่วทุกสารทิศ ทั้งในและต่างประเทศ
-ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นวัดจังหวัดนครราชสีมา รหัสเลขที่ 3015076 ได้ตั้งวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2484 จึงมีสภาพเป็นวัดถูกต้อง ตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505
-ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา กำหนดเขตกว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร เมื่อวันที่ 12 เดือนมกราคม พ.ศ. 2549 |